ในวงการโฆษณาและภาพยนตร์ เรามักจะได้ยินคำศัพท์เทคนิคอย่าง CGI, VFX, และ 3D Animation อยู่เสมอ หลายครั้งคำเหล่านี้ถูกใช้สลับกันไปมาจนอาจสร้างความสับสนให้กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการได้ว่าแท้จริงแล้วมันคือสิ่งเดียวกันหรือไม่?

การเข้าใจความหมายที่แท้จริงของแต่ละคำไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณดูหนังได้สนุกขึ้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสื่อสารวิสัยทัศน์ของคุณกับครีเอทีฟสตูดิโอได้อย่างแม่นยำ วันนี้ JPS STUDIO จะมาไขข้อสงสัยและอธิบายความแตกต่างของทั้งสามคำนี้แบบง่ายๆ ให้เข้าใจกันครับ

1. 3D Animation: การสร้างสิ่งใหม่ให้เคลื่อนไหว

เริ่มต้นจากสิ่งที่เข้าใจง่ายที่สุด หัวใจหลักของ 3D Animation คือ “การสร้างสิ่งใหม่จากศูนย์ แล้วทำให้มันเคลื่อนไหว”

กระบวนการนี้คือการปั้นโมเดล 3 มิติขึ้นมาในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร, สินค้า, โลโก้, หรือวัตถุใดๆ ก็ตาม แล้วจึงนำโมเดลนั้นมาสร้างการเคลื่อนไหวตามเรื่องราวที่วางไว้ คิดง่ายๆ ว่ามันคือการสร้างการ์ตูนหรือภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบ 3 มิตินั่นเอง โดยทั้งหมดเป็นโลกดิจิทัล 100% ไม่ได้อ้างอิงจากฟุตเทจที่ถ่ายทำจริง

ตัวอย่าง: แอนิเมชั่นโฆษณาสินค้าที่เห็นขวดครีมหมุนและแสดงเนื้อครีมออกมา, หรือตัวมาสคอตของแบรนด์ที่กำลังเต้นรำ

2. CGI (Computer-Generated Imagery): ภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์

CGI เป็นคำที่กว้างที่สุดในบรรดาสามคำนี้ หัวใจหลักของ CGI คือ “ภาพใดๆ ก็ตามที่ถูกสร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์”

ดังนั้น CGI จึงเปรียบเสมือน “ร่มคันใหญ่” ที่ครอบคลุมเทคนิคอื่นๆ ไว้มากมาย ซึ่งรวมถึง 3D Animation ที่เราพูดถึงไปก่อนหน้านี้ด้วย นอกจากนี้ CGI ยังรวมถึงภาพนิ่ง (Still Image) ที่สร้างจาก 3D, ฉากดิจิทัล (Digital Matte Painting), หรือแม้แต่กราฟิก 2 มิติบางประเภท สรุปง่ายๆ คือ ถ้าภาพนั้นไม่ได้มาจากเลนส์กล้องถ่ายภาพจริงๆ ก็สามารถเรียกว่าเป็น CGI ได้

ตัวอย่าง: ภาพไดโนเสาร์ในหนัง Jurassic Park, ฉากเมืองแห่งอนาคตในหนัง Sci-Fi, หรือแม้แต่ภาพเรนเดอร์สถาปัตยกรรม

3. VFX (Visual Effects): การผสมผสานภาพจริงกับภาพดิจิทัล

นี่คือส่วนที่คนมักจะสับสนกับ CGI มากที่สุด หัวใจหลักของ VFX คือ “การนำภาพที่ถ่ายทำจริง (Live-Action) มาผสมผสานกับองค์ประกอบดิจิทัล (CGI)”

VFX คือ “กระบวนการ” ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริงได้อย่างแนบเนียน งานของ VFX คือการนำ CGI มาวางลงในฟุตเทจที่ถ่ายทำด้วยกล้องจริงๆ หรือการปรับแต่งฟุตเทจนั้นๆ

ตัวอย่าง:

• การนำไดโนเสาร์ CGI ไปใส่ในฉากป่าที่ถ่ายทำด้วยนักแสดงจริง
• การสร้างฉากระเบิดตูมตามเพิ่มเข้าไปในฉากไล่ล่าของรถยนต์
• การลบสลิงของนักแสดงที่แสดงฉากเหาะเหินเดินอากาศ
• การเปลี่ยนฉากหลังของนักแสดงที่ถ่ายทำบนกรีนสกรีน (Green Screen) ให้กลายเป็นสถานที่ใดก็ได้ในโลก

สรุปความสัมพันธ์ให้เห็นภาพ

ลองจินตนาการถึงโฆษณาที่ “นักบินอวกาศกำลังยืนอยู่บนดาวอังคาร”

• CGI: คือการสร้างภาพ “พื้นผิวดาวอังคาร” และ “ยานอวกาศ” ที่ไม่มีอยู่จริงขึ้นมา
• VFX: คือ “กระบวนการ” นำภาพนักแสดงที่ถ่ายทำในสตูดิโอหน้ากรีนสกรีน มา “ผสมผสาน” เข้ากับฉากดาวอังคาร CGI ที่สร้างไว้ได้อย่างแนบเนียน

บทสรุป

แม้ว่าทั้งสามคำจะมีความหมายที่แตกต่างกัน แต่ในงานโปรดักชันสมัยใหม่มักจะใช้เทคนิคทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่ง การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณสื่อสารความต้องการของโปรเจกต์ได้อย่างชัดเจน

ที่ JPS STUDIO เรามีความเชี่ยวชาญและให้บริการครบวงจรทั้ง 3D Animation, CGI และ VFX พร้อมที่จะให้คำแนะนำว่าโปรเจกต์ของคุณเหมาะกับโซลูชันแบบใดที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงใจและน่าประทับใจ